วันนี้จะมาคุยกันวิธีเกี่ยวกับการประกันตัวผู้ที่ถูกตำรวจจับและการเตรียมตัวที่จะยื่นขอประกันนะครับ
มันเป็นเรื่องเข้าใจได้ครับว่าเมื่อใครคนใดคนหนึ่งถูกตำรวจจับก็จะตั้งสติไม่ค่อยอยู่ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป แต่สิ่งแรกที่คนๆนั้นคิดคือ ไม่อยากต้องเข้าไปอยู่ในห้องขัง สิ่งที่อยากแนะนำให้ทำในเบื้องต้นมีดังนี้ครับ
1. ตั้งสติให้ได้ก่อน แล้วถามตำรวจหรือผู้จับว่า คุณถูกจับข้อหาอะไร เมื่อทราบแล้วก็ถามตำรวจว่า คุณมีสิทธิอะไรบ้างตามกฎหมาย
2. พยายามติดต่อญาติหรือคนรู้จัก เพื่อให้เขารู้ว่า คุณถูกจับอยู่จะได้ช่วยกันดำเนินการถูก หากเป็นไปได้ก็พยายามหาทนายความมาคุยแทนคุณไปเลยครับ เพราะทนายความจะรู้แง่มุมและขั้นตอนตามกฎหมายดีกว่าคุณ แต่ก็ควรหาทนายความที่เชื่อถือได้ด้วยนะครับ
เมื่อทำตามขั้นตอนเบื้องต้นแล้ว ตอนนี้ก็ถึงขั้นตอนการประกันตัว ซึ่งจะทำให้คุณไม่ต้องไปนอนในห้องขังหรือนอนในเรือนจำในขณะที่พนักงานสอบสวนยังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งฟ้องไม่เสร็จ
โดยการขอประกันตัวในชั้นศาลมี 2 ช่วง
ช่วงแรกเมื่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการนำตัวผู้ต้องหามาขอฝากขังต่อศาลและศาลอนุญาตให้ขังซึ่งถือว่าผู้ต้องหาอยู่ในอำนาจควบคุมของศาลแล้ว
ช่วงที่สอง คือ ช่วงที่ศาลประทับฟ้องของโจทก์ ผู้ต้องหามีสถานะเป็นจำเลยซึ่งต้องถูกควบคุมตัวอยู่ในอำนาจของศาล ดังนี้ หากผู้ประกันประสงค์จะขอให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยก็จะต้องยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวนหรือระหว่างพิจารณา แล้วแต่กรณีต่อศาล
กำหนดเวลาที่ศาลอนุญาตให้ประกันมีดังนี้
ชั้นสอบสวน มีกำหนดเวลาเท่ากับระยะเวลาที่ศาลอนุญาตให้ฝากขังจนกระทั่งมีการฟ้องหรือไม่ฟ้องคดี
ชั้นพิจารณาของศาล สัญญาประกันใช้ได้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
เมื่อผู้ต้องหาหรือจำเลยถูกควบคุมตัวโดยศาล ผู้ประกันสามารถยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวโดยใช้หลักประกันได้ดังนี้
1. ใช้หลักทรัพย์เป็นประกัน ซึ่งได้แก่
- เงินสด
- ที่ดินมีโฉนด หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ซึ่งมีหนังสือรับรองราคาประเมินของสำนักงานที่ดิน ซึ่งไม่มีภาระผูกพันอันอาจกระทบต่อการบังคับคดี หากจะนำสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินมาเป็นประกันด้วยก็จะต้องแสดงสำเนาทะเบียนบ้านและหนังสือประเมินราคาสิ่งปลูกสร้างที่น่าเชื่อถือประกอบด้วย
- ห้องชุดมีโฉนดที่ดินและมีหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด และต้องไม่มีภาระผูกพันอันอาจกระทบต่อการบังคับคดีได้
- หลักทรัพย์มีค่าอย่างอื่นที่กำหนดราคา มูลค่าที่แน่นอนได้ เช่น
- พันธบัตรรัฐบาล
- สลากออมสิน
- สลากออมทรัพย์ทวีสินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- ใบรับเงินฝากประจำของธนาคาร
- ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ธนาคารเป็นผู้ออก
- ตั๋วแลกเงิน หรือเช็คที่ธนาคารเป็นผู้สั่งจ่ายหรือรับรองซึ่งสามารถเรียกเก็บเงินได้ในวันที่ทำสัญญาประกัน
- หนังสือรับรองของธนาคารเพื่อชำระเบี้ยปรับแทนในกรณีผิดสัญญาประกัน
2. ใช้บุคคลเป็นประกัน
ต้องเป็นผู้ดำรงตำแหน่งหน้าที่การงานหรือมีรายได้แน่นอน เช่น
- ข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ
- สมาชิกรัฐสภา
- ผู้บริหารราชการส่วนท้องถิ่น
- สมาชิกสภาท้องถิ่น
- พนักงานองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
- พนักงานรัฐวิสาหกิจ
- พนักงานของรัฐประเภทอื่น ๆ ลุกจ้างของทางราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
- ผู้บริหารพรรคการเมือง
- ทนายความ
และเป็นผู้มีความสัมพันธ์กับผู้ต้องหาหรือจำเลย ได้แก่
- บุพการี ผู้สืบสันดาน สามี ภริยา ญาติ
พี่น้อง
- ผู้บังคับบัญชา นายจ้าง
- บุคคลที่เกี่ยวพันโดยทางสมรส หรือ
- บุคคลที่ศาลเห็นว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเสมือนเป็นญาติพี่น้องหรือมีความสัมพันธ์ในทางอื่นที่ศาลห็นสมควรให้ประกันได้
อัตราหลักประกัน
- ทำสัญญาประกันได้ในวงเงินไม่เกิน 10 เท่าของอัตราเงินเดือนหรือรายได้เฉลี่ยต่อเดือนหากวงเงินประกันมียอดสูงกว่าวงเงินที่ผู้นั้นมีสิทธิประกันได้ ศาลอาจกำหนดให้ผู้ขอประกันวางเงินหรือหลักทรัพย์อื่นเพิ่มเติมให้เพียงพอกับวงเงินประกันนั้นได้ หรืออาจให้มีผู้ขอประกันหลายคนร่วมกันทำสัญญาประกันโดยใช้วงเงินของแต่ละคนรวมกันได้
หลักฐานที่ต้องนำมาแสดงในการขอประกันตัว
- บัตรประชาชน บัตรข้าราชการ หรือบัตรแสดงตำแหน่งหน้าที่การงาน ทะเบียนบ้านของจำเลยและผู้ประกันพร้อมสำเนา
- หลักทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก) เงินสด บัญชีเงินฝาก
- หนังสือรับรองจากต้นสังกัดหรือนายจ้าง (กรณีขอประกันตัวด้วยตำแหน่งหน้าที่)
- หนังสือรับรองราคาประเมิน (กรณีใช้โฉนดที่ดิน, หนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นระกัน)
- หนังสือรับรองจากธนาคาร (กรณีใช้สมุดเงินฝากเป็นประกัน)
- หลักฐานการยินยอมของคู่สมรส (กรณีผู้ประกันมีคู่สมรส)
หลักเกณฑ์ในการสั่งคำร้องขอประกัน
เมื่อยื่นคำร้องขอประกันแล้ว ศาลจะพิจารณาเรื่องเหล่านี้ ประกอบในการพิจารณาสั่งคำร้อง คือ
1. ความหนักเบาแห่งข้อหา
2. พยานหลักฐานที่นำสืบแล้วมีเพียงใด
3. พฤติการณ์ต่างๆ แห่งคดีเป็นอย่างไร
4. เชื่อถือผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันได้เพียงใด
5. ผู้ต้องหาหรือจำเลยน่าจะหลบหนีหรือไม่
6. ภัยอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการปล่อยชั่วคราวมีเพียงใด
7. คำคัดค้านของพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ
ในส่วนของอัตราการขอประกันตัวนั้น ผู้ประกันตัวสามารถตรวจสอบได้จากศาลที่พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขัง ซึ่งอัตราการขอประกันตัวนั้นขึ้นอยู่กับความหนักเบาของหา ในบางศาลอาจให้กรมธรรม์สำหรับบางข้อหา แต่บางข้อหาอาจไม่สามารถใช้กรมธรรม์ได้ หากมีข้อสงสัยในเรื่องเกี่ยวกับการประกันตัวผู้ต้องหา เมื่อไปที่ศาลควรติดต่อกับเจ้าหน้าที่ศาลโดยตรง อย่าติดต่อกับคนภายนอกที่เข้ามาพูดคุยด้วย เพราะมีหลายคนเคยถูกคนพวกนี้หลอกให้เสียเงินฟรีอยู่บ่อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น